ขายบริการ ทางเพศ อื้อ

ขายบริการ ทางเพศ อื้อ เดี๋ยวนี้ สังคมไทยเปลี่ยแปลงไปมากนะครับ อาจจะเป็นเพราะ ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง หรือปัญหาอื่น ๆ มากมาย ทำให้ไม่มีเวลาให้ลูกหลาน ใครที่มีลูกหลาน คงต้องช่วยกันดูแล บุตรหลาน ให้มากกว่านี้ครับ อย่าให้เค้า เดินทางผิดครับ …

หัวข้อ xxx ขายบริการ ทางเพศ อื้อ ติดยา เด็กเมืองกว่า 2 แสน โพลล์ชี้ xxx ขายบริการ ทางเพศ ค้ากามผ่านเน็ต ชายขาย-หญิงซื้อ ก็มี xxx ไฮโซฮิตซื้อบริการนิโกร xxx การขายบริการทางเพศ ที่ถนนแฮปปี้แลนด์ xxx คลิปเปิดใจเอเย่นต์ ม.ต้นขายบริการ xxx

รายละเอียด
xxx ขายบริการ ทางเพศ อื้อ ติดยา เด็กเมืองกว่า 2 แสน โพลล์ชี้ xxx
เด็ก กทม ขายบริการ กว่า 2 แสน โพลล์ชี้เด็กเมืองกรุงติดยากว่า 2 แสน คนขายบริการทางเพศไม่ต่ำกว่าแสน !!

เอ แบคโพลล์ เผย เด็กเมืองกรุงใช้ยาเสพติด 202,392 คน ขายบริการทางเพศทะลุแสน แนะแนวทางแก้สร้างเครือข่ายสังคมออนไลน์ลดปัยหายาเสพติดอาชญากรรม พร้อมเอ็กซ์เรย์ทุกชุมชน บ้านเช่า ปฏิรูประบบบำบัดฟื้นฟูผู้เสพ ห้ามตบทรัพย์

นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) เปิดเผยโครงการเฝ้าระวังและรักษาคุณภาพอนาคตเยาวชนไทย ในงานวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง ผลประมาณการเด็กและเยาวชนใช้ยาเสพติด และแนวทางแก้ไข

กรณีศึกษาตัวอย่างอายุ 12 – 24 ปี จากกลุ่มเด็กและเยาวชนเป้าหมายในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลจำนวนทั้ง สิ้น 1,606,286 คน ดำเนินโครงการระหว่าง วันที่ 1 – 15 สิงหาคม 2554 ที่ผ่านมา จำนวน 1,815 ตัวอย่าง โดยการเลือกตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่มเชิงชั้นภูมิหลายชั้นและมีช่วงความคลาด เคลื่อนบวกลบร้อยละ 7 ประเด็นสำคัญที่ค้นพบครั้งนี้ พบว่า

เด็กและเยาวชนไทยในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่ใช้ยาเสพติด (ไม่นับรวมเหล้าและบุหรี่) มีอยู่ 202,392 คน และจำนวนมากที่สุดอยู่ที่ กว่าสามแสนคน หรือ 327,682 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 13.4 ของประชากรทั้งหมด (ไม่นับประชากรแฝงและกลุ่มแรงงานต่างชาติ)

แนวทางแก้ไขคือ 1) สร้างเครือข่ายทางสังคมออนไลน์ หรือ “โซเชียลเน็ตเวิร์กลดปัญหายาเสพติดและอาชญากรรม” จริงจังต่อเนื่อง ด้วยการใช้ระบบแจ้งข่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปยังโทรศัพท์มือถือของประชาชน ทุกคนช่วยเฝ้าระวังสกัดกั้นขบวนการค้ายาเสพติดและปัญหาอาชญากรรมอื่นๆ

2) ตรวจค้นครั้งใหญ่หรือ การ X-Ray ทุกชุมชน ซุ้มบ้านเช่า โรงเรือนต่างๆ เพื่อขจัดโอกาสและตัดวงจรเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดและกลุ่มผู้สนับสนุน

3) ปฏิรูประบบบำบัดฟื้นฟูผู้เสพ โดยทำให้การคัดกรองผู้เข้ารับการบำบัดให้โปร่งใส ไม่ให้มีการตบทรัพย์ปรับผู้ค้ามาเป็นผู้เสพแล้วเข้าไปสร้างเครือข่ายขบวนการ ค้าในสถานบำบัด แต่นำระบบฐานข้อมูลติดตามผู้ผ่านบำบัดที่มีประสิทธิภาพติดตามผู้เสพเป็นระยะ เวลาอย่างน้อย 5 ปีเพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขากลับกลายเป็นคนดีของสังคม ประกอบอาชีพที่สุจริตไม่เป็นภัยต่อสังคมและมีความมั่นคงในชีวิตอย่างปกติสุข แท้จริง

จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 51.1 เป็นชาย ร้อยละ 48.9 เป็นหญิง ตัวอย่างร้อยละ 30.5 อายุระหว่าง 12 – 15 ปี ร้อยละ 34.7 อายุระหว่าง 16 – 19 ปี ร้อยละ 34.8 อายุระหว่าง 20-24 ปี ตัวอย่างร้อยละ 80.0 กำลังศึกษาอยู่ ร้อยละ 20.0 สำเร็จการศึกษาแล้ว

สิ่งที่ทำในช่วง 30 วันที่ผ่านมา
อันดับ 1 ใช้คำหยาบพูด คุณ กู และอื่นๆ กับเพื่อน 79.3 % อันดับ
2 ดื่มเหล้า 36.0 % อันดับ
3 มีเพศสัมพันธ์ 28.1 % อันดับ
4 เล่นการพนัน 25.1 % อันดับ
5 สูบบุหรี่ 24.5 % อันดับ
6 ทะเลาะวิวาทกับผู้อื่นโดยใช้อาวุธและสิ่งของ 22.0% อันดับ
7 ใช้คำหยาบพูด คุณ กูกับคนในครอบครัว 19.9%
8 ใช้ยาเสพติด (ไม่รวมเหล้าและบุหรี่) 13.4% ผลประมาณการ 202,392 คน
9 ถ่ายรูป/ คลิปโป๊ผ่านมือถือ 12.6 %
10 ลักเล็กขโมยน้อย 12.5% อันดับ 11 ขายบริการทางเพศ 7.5 % ผลประมาณการ 120,471 คน

หมายเหตุ 1. ฐานข้อมูลประชากรปี พ.ศ. 2553 จำนวนประชากรอายุ 12 – 24 ปีในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจำนวนทั้งสิ้น 1,606,286 คน
ที่มา manager

ขายบริการ ทางเพศ อื้อ
ขายบริการ ทางเพศ อื้อ ภาพประกอบจาก อินเทอร์เน็ต

6 thoughts on “ขายบริการ ทางเพศ อื้อ”

  1. xxx ขายบริการ ค้ากามผ่านเน็ต ชายขาย-หญิงซื้อ ก็มี xxx
    ปลาย สัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งเป็นช่วงเทศกาล “วาเลนไทน์” นอกจากปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรแล้ว ก็ไม่รู้ว่ามี “คนขาย” กับ “คนซื้อ” ตกลงการค้าทางเพศกันได้กี่คู่ ที่รู้แน่ ๆ คือกรณีประกาศ “ขายบริการทางเพศผ่านเว็บไซต์-อินเทอร์เน็ต” นั้น ในเมืองไทยเราน่ะมีการทำกันจริง ๆ มิใช่แค่ลือ…

    หลายวันก่อนมีข่าวว่าหน่วยงานรัฐจะเข้มงวดเรื่องนี้ แต่เอาเข้าจริงก็ยังไม่รู้ว่าจะสกัดกั้นได้สักแค่ไหน ?!?

    “เพราะมีความคิดกันว่า… การซื้อและขายบริการทางเพศกลายเป็นเรื่องธรรมดาในสังคมปัจจุบัน ไม่ใช่สิ่งที่น่ารังเกียจแต่อย่างใด เป็นสิ่งที่ผิดครึ่งหนึ่งถูกครึ่งหนึ่ง

    และเป็นสิทธิส่วนบุคคล ถึงจะเป็นสิ่งที่ไม่ดี ผิดศีลธรรม ผิดกฎหมาย ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง แต่ก็เป็นเรื่องของผู้ซื้อและผู้ขายบริการ ไม่เกี่ยวกับผู้อื่น”

    …นี่เป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลที่ปรากฏออกมาภายหลังมีการทำวิจัย “การขายบริการทางเพศผ่านห้องสนทนาบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต” โดย ศศิดารา สิงหเนตร ภายใต้การสนับสนุนการทำวิจัยโดย มูลนิธิดำรงชัยธรรม ซึ่งข้อมูลจากการทำวิจัยชิ้นนี้ก็ตอบโจทย์ปัญหาการขายตัวของคนไทยรุ่นใหม่

    ทั้งนี้ กับการขายบริการทางเพศผ่านห้องสนทนาบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตนั้น งานวิจัยชิ้นนี้พบว่า… สาเหตุแห่งการขายของหญิงยุคนี้นั้นมีหลากหลาย เช่น เพราะต้องการเงินไปใช้จ่ายทั้งในเรื่องจำเป็นและไม่จำเป็น ต้องการหาเงินได้มาก-ได้เร็ว ไม่ต้องทำงานหนัก, เพราะผิดหวังในความรัก ต้องการประชดแฟน, เพราะความฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือย ใช้สิ่งของราคาแพง เลียนแบบต่างชาติ ตามแฟชั่น ชิงดีชิงเด่นกันในกลุ่มเพื่อน ฯลฯ

    ค่านิยมของวัยรุ่นที่เปลี่ยนแปลงไปในเรื่องเซ็กซ์ ที่กลายเป็นเรื่องธรรมดา, การมีกิ๊ก, การแลกคู่นอน หรือสวิงกิ้ง รวมถึงเป็นความต้องการส่วนบุคคลในเรื่องเพศ นี่ก็เป็นสาเหตุเช่นกัน !!

    สำหรับสาเหตุที่หญิงไทยยุคใหม่เลือกใช้อินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางในการขาย บริการทางเพศ หลัก ๆ ก็เพราะ… ต้องการเงินไปจับจ่ายใช้สอยง่าย ๆ โดยไม่ต้องไปขายตามสถานบริการต่าง ๆ ไม่ต้องไปหาลูกค้าเอง เป็นวิธีที่ลูกค้าติดต่อโดยตรงไม่ต้องผ่านเอเย่นต์-ไม่ต้องถูกหักหัวคิว ได้ราคาดีกว่าการขายบริการผ่านช่องทางอื่น ง่าย สะดวก ทำได้ทุกที่ทุกเวลา เลือกได้ว่าต้องการจะขายบริการหรือไม่ จะขาย-ไม่ขายให้ใคร

    และส่วนใหญ่ก็จะคิดว่าวิธีนี้เป็นความลับ…ไม่มีใครรู้ ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วในที่สุดก็จะไม่ลับ…มีคนรู้เพียบ !!

    ในส่วนของผู้ชายที่ซื้อบริการทางเพศ จากการวิจัยพบว่าสาเหตุที่ทำให้เลือกซื้อบริการผ่านอินเทอร์เน็ตก็เพราะ… ง่าย สะดวกรวดเร็ว สามารถใช้ได้ทุกที่ทุกเวลา, ค่าใช้จ่ายถูกกว่าการไปซื้อตามสถานบริการที่อาจต้องมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีก เช่น ค่าดริ๊งค์ อีกทั้งการเข้าไปซื้อในสถาน บริการอาจจะทำให้ภาพลักษณ์ไม่ดี

    นอกจากนี้ ผู้ชายนักซื้อยังมีความคิดว่า…ผู้หญิงที่ขายบริการผ่านทางอินเทอร์เน็ต -ผ่านห้องสนทนาส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา…ซึ่งอาจไม่ใช่ !! คิดว่าไม่ใช่ผู้หญิงที่ขายบริการเป็นประจำ ปลอดภัยกว่าหญิงตามสถาน บริการที่ขายเป็นประจำ…ซึ่งก็อาจไม่ใช่ และจะใช่-ไม่ใช่ก็เสี่ยงทั้งนั้น !!

    ข้อมูลจากงานวิจัยยังระบุไว้อีกว่า… ผู้ชายจะมองว่านี่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการซื้อบริการทางเพศ ผู้ซื้อก็มีทั้งคนที่มีความต้องการทางเพศสูง แฟนหรือภรรยาให้เรื่องทางเพศไม่ได้ตามต้องการ, เบื่อภรรยา หรือทะเลาะกับภรรยา หรือเลิกกับภรรยาแล้ว หรือเพราะยังไม่มีภรรยา, ทำตามเพื่อน, อยากลอง อยากรู้

    อย่างไรก็ตาม เรื่องการ “ค้ากามผ่านเน็ต” นี้ก็ใช่ว่าจะมีแต่กรณีหญิงขาย-ชายซื้อเท่านั้น แบบ “ชายขาย-หญิงซื้อก็มี” โดยข้อมูลอีกส่วนหนึ่งจากงานวิจัย “การขายบริการทางเพศผ่านห้องสนทนาบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต” ที่สนับสนุนโดยมูลนิธิดำรงชัยธรรม ระบุว่า… มีผู้หญิงที่ซื้อบริการทางเพศจากผู้ขายบริการที่เป็นผู้ชาย โดยสาเหตุที่ผู้หญิงเลือกซื้อบริการผ่านทางช่องทางนี้ก็เนื่องจากคิดว่า สามารถเก็บเป็นความลับได้ ไม่เป็นที่เปิดเผย ไม่ต้องไปตามสถานบริการ อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ง่าย และสะดวกรวดเร็วอีกต่างหาก

    ถามว่าหญิงกลุ่มไหนที่เป็นนักซื้อ คำตอบคือ… มีหลายกลุ่ม เช่น ผู้หญิงที่มีความต้องการทางเพศสูง แต่สามีให้ได้ไม่เพียงพอ หรือสามีหมดสมรรถภาพทางเพศ, แม่ม่าย, ผู้หญิงที่ทะเลาะกับแฟน ต้องการประชด, ผู้หญิงที่ยังไม่มีสามี ทั้งนี้ นี่ยังไม่รวมกลุ่มรักร่วมเพศ “ชายขาย-ชายซื้อ” ที่ก็มีไม่น้อย

    “เปลี่ยนแปลงรูปแบบไปในทางที่อันตรายขึ้น มีแนวโน้มที่จะรุนแรงและขยายมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสื่ออินเทอร์เน็ตได้ขยายวงกว้างออกไป ผู้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคนระดับบน ระดับกลาง หรือระดับล่างที่สามารถเรียนรู้การใช้งานคอมพิวเตอร์จากบุคคลอื่น ๆ เมื่อใช้อินเทอร์เน็ตเป็นก็สามารถที่จะเข้าใช้งานช่องทางนี้และใช้เป็นสื่อ ในการซื้อขายบริการทางเพศได้ด้วย” …นี่เป็นส่วนของแนวโน้มในอนาคต ซึ่งงานวิจัยของ ศศิดารา สิงหเนตร ระบุไว้ในช่วงท้าย ๆ ซึ่งก็มิได้เกินเลยความจริง

    “อินเทอร์เน็ต” กลายเป็น “ช่องทางค้ากาม” มานานแล้ว

    และยิ่งนับวันก็ยิ่งเป็น “ตลาดใหญ่-มีสินค้าหลายกลุ่ม”…

    คนไทยซื้อขายกันมากขึ้น…แม้แต่ผู้หญิงก็เป็นนักซื้อ !!!.
    ที่มา เดลินิวส์

  2. xxx ไฮโซฮิตซื้อบริการนิโกร xxx
    แฉหญิง’ไฮโซ’ ฮิตซื้อบริการ’นิโกร’ ผลวิจัยอจ.จุฬา-สั่งตรง’จาเมกา’
    ตะลึง ตัวเลขโสเภณีชายพุ่ง อาจารย์จุฬาฯเผยคุณนายไฮโซนิยมซื้อนิโกรขึ้นเตียง ต้องสั่งนำเข้าจากไนจีเรีย-จาเมกาปีกว่า 100 คน ชี้แข็งแรงลีลาเร้าใจ

    เมื่อ วันที่ 12 กรกฎาคม ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายนิเทศ ตินณะกุล อาจารย์ประจำภาควิชาสังคมวิทยา-มานุษยวิทยา คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยผลการศึกษาโสเภณีชายในกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยวขนาดใหญ่ว่า จากการศึกษาปัญหาโสเภณีชายมาประมาณ 2 ปี โดยเฝ้าติดตามพฤติกรรมจากสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม คลับ บาร์ และสถานบริการสตรีตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ พบข้อมูลที่น่าตกใจมาก โดยพบว่าปัจจุบันมีผู้ชายที่หันมาประกอบอาชีพโสเภณีชายเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่มีไม่ถึง 10,000 คน ปัจจุบันมีมากถึง 30,000 คน

    นายนิเทศ กล่าวว่า การขายตัวของโสเภณีชายได้ขยายการบริการไปในต่างจังหวัดมากขึ้น ส่วนใหญ่จะเป็นเมืองท่องเที่ยว และลักษณะการขายบริการจะแตกต่างกันไป เช่น จ.เชียงใหม่ กลุ่มผู้ชายขายบริการจะเช่าบ้านเป็นหลัง คล้ายๆ กับซ่องโสเภณีหญิง ที่ผู้ต้องการใช้บริการสามารถเข้าไปใช้บริการได้เลย ส่วนที่ จ.ภูเก็ต และกรุงเทพฯ ยังเป็นการเปิดบริการตามสถานบันเทิงและโรงแรมระดับ 5 ดาว ที่จะมีป้ายชัดเจนว่าบริการเฉพาะผู้หญิง ส่วนวัยของผู้ชายขายบริการทางเพศจะมีอายุตั้งแต่ 12-35 ปี โดยกลุ่มเด็กที่มีอายุ 12-13 ปี จะขายบริการให้กับผู้ชายต่างชาติ อายุ 18-35 ปีจะขายบริการให้กับกลุ่มผู้หญิงไทยและผู้หญิงต่างชาติ โดยการเข้ามาขายบริการของโสเภณีชายจะมีกระบวนการยากกว่าโสเภณีหญิง เพราะโสเภณีชายต้องผ่านการฝึกอบรมอย่างดี เพื่อให้สามารถบริการผู้หญิงให้มีความสุขได้ด้วยวิธีการต่างๆ

    ” สำหรับกลุ่มลูกค้าของโสเภณีชาย จะเป็นกลุ่มผู้ชายที่เบี่ยงเบนทางเพศ และผู้หญิงที่อยู่ในสังคมชั้นสูงในสังคมไฮโซ ร่ำรวย และกลุ่มผู้หญิงต่างชาติ โดยโสเภณีชายของไทยค่อนได้รับความนิยมจากผู้หญิงต่างชาติ โดยเฉพาะผู้หญิงญี่ปุ่น กลุ่มผู้หญิงเหล่านี้จะนิยมเหมาทัวร์มาเพื่อใช้บริการผู้ชายไทย ส่วนใหญ่จะไปใช้บริการที่ภูเก็ต โดยเหตุผลที่เข้ามาใช้บริการในประเทศไทยเพราะราคาถูก ผู้ชายไทยเอาใจเก่ง” นายนิเทศกล่าว

    นายนิเทศกล่าวว่า สำหรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้หญิงไทยกลับนิยมผู้ชายต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงอายุมาก และอยู่ในวงสังคมชั้นสูง ร่ำรวยจะนิยมผู้ชายต่างชาติ โดยเฉพาะผู้ชายนิโกร เป็นที่นิยมมาก เพราะนิโกรร่างกาย แข็งแรง บึกบึน มีความโลดโผน รุนแรงกว่าผู้ชายไทย ทั้งนี้ ความต้องการนิโกรของกลุ่มผู้หญิงไฮโซเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งทำให้กลุ่มผู้ประกอบการการบริการด้านนี้ ได้นำเข้านิโกรจากประเทศจาเมกา ไนจีเรีย เพื่อมาขายบริการเพิ่มขึ้น ซึ่งแต่ละปีเชื่อว่ามีผู้ชายนิโกรเข้ามาขายบริการในประเทศไทยประมาณ 100 คนขึ้นไป

    “ผมค่อนข้างแปลกใจ เพราะคิดว่ารสนิยมของคุณหญิง คุณนายไทย น่าจะเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดี แต่พอศึกษาแล้วกลับพบว่านิโกรเป็นที่นิยมมากว่า ส่วนเรื่องราคาค่าบริการ นิโกรเป็นกลุ่มที่ราคาแพงที่สุด คือประมาณ 7,000 บาท แต่ผู้ชายไทยราคาเพียง 5,000 บาทเท่านั้น” นายนิเทศกล่าว และว่า นอกจากค่าตัวตามปกติที่ผู้หญิงจะต้องจ่ายให้โสเภณีชายแล้ว จะต้องจ่ายค่าบริการอื่นๆ ด้วย เช่น ค่าเครื่องดื่ม ค่าที่พัก ซึ่งรวมแล้วมีค่าใช้จ่ายประมาณ 10,000 บาทต่อครั้ง แต่หากต้องการค้างคืนจะต้องจ่ายค่าบริการมากกว่านั้น

    นายนิเทศกล่าว ว่า โสเภณีชายเกิดขึ้นมานานแล้ว และเชื่อว่าคงจะเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน ซึ่งปัญหาโสเภณีทั้งชายและหญิงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างแก้ไขได้ยาก เพราะฉะนั้นเห็นว่าควรจะต้องมีกฎหมายรับรองอาชีพนี้ให้เป็นอาชีพที่ถูกต้อง ตามกฎหมาย เพื่อให้คนเหล่านี้ได้รับการคุ้มครองพร้อมทั้งควบคุมในเรื่องการแพร่ระบาด ของเชื้อโรคเอดส์ด้วย ที่ผ่านมามีความพยายามที่จะผลักดันกฎหมายแต่ไม่สำเร็จ เพราะมีการต่อต้านจนกฎหมายตกไป ซึ่งความจริงแล้วในต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี มีกฎหมายที่รับรองอาชีพนี้อย่างถูกต้องแล้ว

    ที่มา หนังสือพิมพ์มติชน

    เพิ่มเติมจาก มติชน วันนี้
    ‘หนุ่มไนจีเรีย’เดือด โต้ข่าวคนดำ’ขายตัว’ ร้องทูตฟ้องอจ.จุฬาฯ

    เผยจากการสำรวจย่านพักอาศัยชาวไนจีเรีย จาเมกา ในกทม. ส่วนใหญ่ยืนยันไม่มีแน่บริการขายตัว เพราะยึดธุรกิจเสื้อผ้าเป็นอาชีพ

    หลัง จากนายนิเทศ ตินณะกุล อาจารย์ประจำภาควิชาสังคมวิทยา-มานุษยวิทยา คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเปิดเผยผลการศึกษาเกี่ยวกับโสเภณีชายในกรุงเทพมหานคร (กทม.) และเมืองท่องเที่ยวต่างๆ และพบว่าหญิงไทยที่มีฐานะดีส่วนหนึ่ง ชอบซื้อบริการทางเพศกับชาวนิโกร โดยมีการสั่งนำเข้าจากประเทศในแอฟริกา เช่น ไนจีเรีย จาเมกา แคเมอรูน นั้น

    ผู้สื่อข่าวได้ไปสำรวจตามย่าน ต่างๆ ใน กทม.ที่เป็นแหล่งพักอาศัยของชาวผิวดำชาติต่างๆ โดยที่บริเวณซอยสุขุมวิท 3 ซึ่งมีตรอกเล็กๆ ก่อนถึงโรงแรมเกรซ อันเป็นย่านที่ชาวผิวดำชอบมาท่องเที่ยว เพราะมีสำนักงานขายเสื้อผ้า รองเท้า และบาร์เหล้าของชาวไนจีเรียนั้น บรรดาพ่อค้าแม่ค้ากล่าวว่า ตรอกนี้มีชาวไนจีเรียอยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งทำธุรกิจเสื้อผ้า ส่วนจะมีบริการการขายตัวในลักษณะดังกล่าวด้วยหรือไม่นั้น ไม่ทราบ แต่ช่วงประมาณห้าทุ่มเป็นต้นไป จะมีชายผิวดำจากที่อื่นเข้ามากันมาก ไม่ทราบเช่นกันว่ามีอะไรแอบแฝงหรือไม่

    ส่วนเจ้าของร้านอาหารคาบาน่า อัฟริกัน เรสเตอรองค์ ซึ่งเป็นร้านอาหารไนจีเรีย ตรงข้ามโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า ไม่เคยมีชายชาวไนจีเรียมาขายตัวแน่นอน และตนคงไม่ยอมให้ใช้ที่ร้านเป็นจุดนัดพบและนั่งรอเพื่อขายบริการแน่

    ด้าน นายโอคุกคุ อายุ 35 ปี ชาวไนจีเรีย ซึ่งมีธุรกิจขายเสื้อผ้าในซอยสุขุมวิท 3 กล่าวว่า ตนมีภรรยาและลูกเป็นคนไทย ข่าวที่ว่ามีคนไนจีเรียมาขายตัวนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดทางศาสนา ที่ผ่านมาชาวไนจีเรียมักจะถูกอ้างชื่อจากคนผิวดำประเทศใกล้เคียงในทวีป แอฟริกา เช่น กานา ไรบีเรีย จาเมกา แคเมอรูนเพราะจะได้รับการยอมรับในการเดินทางเข้าประเทศต่างๆ มากกว่า

    ” ข่าวเช่นนี้ไม่ทราบว่าสถานทูตไนจีเรียปล่อยให้เกิดขึ้นได้อย่างไร วันที่ 15 กรกฎาคมนี้ ผมจะเอาหนังสือพิมพ์ที่ลงข่าวไปสถานทูตเพื่อดำเนินการตามกฎหมายกับอาจารย์ จุฬาฯ ที่ทำให้ประเทศไนจีเรียเสียหาย” นายโอคุกคุกล่าวอย่างมีอารมณ์

    ทาง ด้านเกสต์เฮ้าส์ ในซอยบวรรังษี ย่านบางลำพู ซึ่งเป็นอีกจุดที่มีชาวผิวดำประเทศต่างๆ จากทวีปแอฟริกาอาศัยอยู่ นายโทมังก้า โซเน่ ชาวแคเมอรูน อายุ 28 ปี กล่าวว่า คนผิวดำส่วนหนึ่งเดินทางมาทำงานโดยมีเอเยนซี่พาเข้ามา ซึ่งก่อนทำงานจะถูกยึดหนังสือเดินทางไว้ เพื่อบีบให้ชดใช้เงินค่าเดินทางและค่านายหน้าหางาน ส่วนพวกที่เดินทางมาเที่ยวแล้วเงินหมด อาจหาเงินโดยการขายบริการทางเพศ แต่ที่เข้ามายึดเป็นอาชีพยังไม่เคยพบ

    ส่วนย่านประตูน้ำด้านหลังโรง แรมอินทรา พบชาวผิวดำนั่งรวมกันเป็นกลุ่มใหญ่กว่า 10 คน โดยแต่ละคนแต่งกายดี มีโทรศัพท์มือถือทุกคน เมื่อเข้าไปสอบถาม ปรากฏว่าต่างพากันเดินเลี่ยงออกไป เหลือเพียงชายชาวไรบีเรีย คนหนึ่งซึ่งบอกว่าเดินทางเข้ามาประเทศไทยหลายครั้งเพราะทำธุรกิจเสื้อผ้า และไม่เคยได้ยินเรื่องดังกล่าวมาก่อน เห็นว่าไม่น่าเป็นไปได้ เพราะชาวไนจีเรียเป็นมุสลิม อาจมีบ้างที่เข้ามาค้าขายสิ่งผิดกฎหมาย

  3. xxx การขายบริการทางเพศ ที่ถนนแฮปปี้แลนด์ xxx
    การขายบริการทางเพศ ที่ ซอยขนานกับถนนแฮปปี้แลนด์ เขตบางกะปิ กทม. มีคิวรถตู้ ใกล้กันมีนวดแผนโบราณและคาราโอเคะ “ลันตา” อยู่ไม่ไกลจากสถานีตำรวจนครบาลลาดพร้าวนัก พนักงานนวดเบอร์ 81 ผิวคล้ำ อายุประมาณ 28 ปี ขายบริการทางเพศแบบคุกคามลูกค้าดังต่อไปนี้

    เมื่อ ประมาณเดือนธันวาคม 2552 ผมไปใช้บริการนวดแผนโบราณที่นี่ ในเวลาประมาณ 20.00 น. พนักงานนวดเบอร์ 81 เข้ามานวดให้จนครบ 1 ชั่วโมง แล้วถามว่าจะให้ทำบริการพิเศษไหม เธออธิบายว่าเป็นการขายบริการทางเพศ โดยเธอจะไปซื้อถุงยางอนามัยมาจากแม่บ้านของลันตา เมื่อทำจนเสร็จกิจกับลูกค้า แม่บ้านจะนำถุงยางที่ใช้แล้วและหลักฐานอื่นๆ ไปทำลาย เธอเองไม่ได้พกพาถุงยางเพราะกลัวถูกจับกุม

    เมื่อข้าพเจ้าปฏิเสธและขอให้เธอนั่งคุยกันก่อน เธอบอกว่าให้กลับไปได้แล้ว เธอเป็นพนักงานนวดที่นี่ไม่มีรายได้จากทางร้าน ต้องขายบริการทางเพศ ดังนั้น เวลานวด 2 ชั่วโมงจึงรวมบริการทางเพศและข้าพเจ้าจะต้องจ่ายเงิน 300 บาทค่านวด กับ 1000 บาทค่าบริการทางเพศ ข้าพเจ้าบอกว่าขอพักกหน่อย เธอพูดจาไม่พอใจ ขู่กรรโชก ดุด่า บอกว่ายังไม่ได้ทำผิดกฎหมาย และแสดงอาการฉุนเฉียว

    ข้าพเจ้าออกมาจากห้องนวดพร้อมกับเธอ ไปชำระค่าบริการ 300 บาท และแจ้งกับพนักงานเก็บเงิน กับพนักงานดูแลลูกค้าว่าเธอทำตัวไม่เหมาะสมและผิดกฎหมาย ข้าพเจ้ากลับบ้านและลืมเรื่องนี้ไป คาดว่าทางร้านน่าจะตักเตือนหมอนวดเบอร์ 81 ผู้นี้บ้าง

    ต่อ มา เมื่อวันนี้ เวลา 20.00 น. ข้าพเจ้าไปนวดอีกหลังจากหายไปเกือบปี แปลกใจที่พนักงานหน้าตาบึ้งตึง ไม่พูดด้วย เมื่อนวดเสร็จเธอก็เสนอขายบริการทางเพศในแบบเดิม ข้าพเจ้าปฏิเสธในแบบเดิม

    เธอบอกว่าจำข้าพเจ้าได้ และแสดงความโกรธแค้นยิ่งขึ้นอีก ข้าพเจ้ากับเธอลงมา ชำระค่าบริการ 300 บาท และขอพบเจ้าของร้าน แต่ได้รับแจ้งว่าไม่อยู่ จึงพูดกับพนักงานชาย 2 คนว่า ไม่น่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้นอีก เพราะเคยเตือนไปเมื่อปีก่อนแล้ว
    ที่มา http://www.meeboard.com/view.asp?user=latphrao&groupid=1&rid=32&qid=32

Leave a Reply