เกมส์ เซ็ก ส์ ออนไลน์

เกมส์ เซ็ก ส์ ออนไลน์
เอาละซิ ผู้หญิงชอบเล่นเกม มีเซ็กส์บ่อยกว่าผู้หญิงทั่วไป ( ข้อมูลจากผลสำรวจ )xxx เผยเด็กท่องเน็ต 1 ใน 6 มีเซ็กส์กับชายออนไลน์

xxx ผู้หญิงชอบเล่นเกม มีเซ็กส์บ่อยกว่าผู้หญิงทั่วไป ( ข้อมูลจากผลสำรวจ )xxx ผลสำรวจชี้ หญิงชอบเล่นเกมมีเซ็กส์บ่อยกว่าหญิงทั่วไป

บ่อยครั้งที่ในต่างประเทศมีการทำสำรวจอะไรแปลกๆออกมาให้เห็น และนี่คงเป็นอีกครั้งที่มีการทำสำรวจที่ไม่ค่อยพบบ่อยนักในวงการเกม ภายใต้หัวข้อ ว่าผู้หญิงที่เล่นเกมเป็นประจำจะมีผลต่อกิจวัตรในเรื่องเซ็กส์อย่างไร

Wired blog Game | Life เป็นผู้นำเสนอผลสำรวจนี้ ซึ่งทำการสำรวจโดย Gametart ร้านให้เช่าเกมออนไลน์ชื่อดังในอังกฤษ การสำรวจทำโดยสอบถามไปยังกลุ่มผู้หญิงว่าเล่นเกมเป็นประจำมากน้อยเพียงใด และถามล้วงลึกต่อไปว่าในแต่ละสัปดาห์มีเซ็กส์กี่ครั้ง

เกมส์ เซ็ก ส์ ออนไลน์
เกมส์ เซ็ก ส์ ออนไลน์

จากกลุ่มผู้หญิงตัวอย่าง 200 คน กลุ่มผู้หญิงที่เล่นเกมเป็นประจำจะมีเซ็กส์ประมาณ 4.3 ครั้งต่อสัปดาห์ ส่วนผู้หญิงที่ไม่เล่นเกมจะมีเซ็กส์ประมาณ 3.2 ครั้งต่อสัปดาห์ ผลสำรวจยังเปิดเผยต่ออีกว่าผู้หญิงที่เริ่มเล่นเกมมักจะมีเซ็กส์บ่อยขึ้น มากกว่าตอนที่ยังไม่ได้เล่นเกมอีกด้วย งานนี้ไม่รู้คุณผู้ชายจะควรสนับสนุนให้แฟนของคุณเล่นเกมหรือไม่เล่นเกมหละ เนี่ย…
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์

xxx เผยเด็กท่องเน็ต 1 ใน 6 มีเซ็กส์กับชายออนไลน์ xxx
เผยเด็กท่องเน็ต 1 ใน 6 เคยมีเซ็กส์กับคนแปลกหน้าที่รู้จักทางออนไลน์ ชาย 20.8% หญิง 12.2% เคยประกาศหาคู่ทางอินเทอร์เน็ต ขณะที่เด็กไทยต่ำกว่า 15 ปี กว่า 1 ล้านคน นิยมใส่ที่อยู่-เบอร์โทรศัพท์ในเวบไซต์ มิจฉาชีพฉวยช่องลวงฆ่า ข่มขืน ลักพาตัว รุกใช้พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กห้ามโฆษณาเผยแพร่ข้อมูลเด็ก

เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) คณะอนุกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนตัวของเด็กบนระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ จัดเวทีเสวนาเรื่อง “ผู้ร้ายล่อลวงเด็ก : ภัยจากการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของเด็กบนโลกออนไลน์”เพื่อรับฟังความเห็นของ ทุกฝ่ายถึงมาตรการคุ้มครองข้อมูลเด็กบนโลกออนไลน์ ทั้งมาตรการทางกฎหมาย และมาตรการทางสังคม เพื่อให้เกิดความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการคุ้มครองสวัสดิภาพของเด็ก ไม่ให้ตกเป็นเหยื่ออาชญากรที่หาประโยชน์ทางอินเทอร์เน็ต โดยมีนพ.พลเดช ปิ่นประทีป รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) เป็นประธาน พร้อมด้วยผู้ประกอบการด้านเว็บไซต์ หน่วยราชการ ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง และผู้สนใจเข้าร่วมประมาณ 50 คน

นพ.พลเดช กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ใช้งานทางอินเทอร์เน็ตจำนวนมากเป็นเด็กและเยาวชน และนิยมใช้บริการเว็บไซต์ที่มีลักษณะเป็นชุมชน เช่น เว็บไซต์หาเพื่อน โพสต์ภาพ สนทนาบนเว็บบอร์ด ซึ่งการใช้บริการเว็บไซต์ลักษณะดังกล่าว ต้องกรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล เพื่อสมัครใช้บริการและเพื่อประโยชน์ในการใช้บริการ ขณะที่ผู้ให้บริการเว็บไซต์สามารถนำข้อมูลส่วนตัวของเด็กมาเปิดเผยจนนำไปสู่ ปัญหาร้ายแรง โดยเฉพาะมิจฉาชีพใช้ข้อมูลที่เด็กเปิดเผยเข้าถึงตัวเด็กเพื่อล่อลวง และนำสู่การลักพาตัว ชิงทรัพย์ ข่มขู่ ข่มขืน หรือฆาตกรรม

ทั้งนี้ จากการสำรวจของเอแบคโพลล์ พบว่า เด็กกว่า 80 % ที่เล่นอินเตอร์เน็ตเคยสนททนาออนไลน์กับคนแปลกหน้าที่ไม่เคยเห็นหน้ากันมา ก่อน โดยส่วนใหญ่เริ่มจากการที่คู่สนทนาเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของเด็ก เช่น อีลื เบอร์โทรศัพท์ และ 70 % นำไปสู่การพบปะกัน ที่น่าห่วงคือ เด็ก 1 ใน 6 คนที่เล่นอินเตอร์เน็ต เคยมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าที่ร็จักทางออนไลน์ทั้งเต็มใจและไม่เต็มใจ

น.ส.ชฎามาศ ธุระเศรษฐกุล รองผู้อำนวยการศูนย์คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกซ์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือเนคเทค กล่าวว่า เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี กว่า 1 ล้านคน นิยมโพสต์ภาพและสนทนากับคนแปลกหน้าผ่านอินเตอร์เนต และ 31 % เคยนัดเจอกับคนแปลกหน้าที่แชทกันในอินเตอร์เนต โดยเวปไซต์ที่เด็กนิยมเข้าไปสนทนามากที่สุด คือ เวปยูทูบ ไฮไฟ เอ็มเอสเอ็น มายสเปซ และเฟสบุค เป็นต้น ซึ่งเด็กจะต้องกรอกข้อมูลชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ ทำให้มิจฉาชีพสามารถค้นหาและเลือกเด็กผู้หญิงจากอายุหน้าตา ตามที่ต้องการได้ ทั้งนี้ การที่คณะอนุกรรมการฯจะนำพ.ร.บ.คุ้มครองเด็กแห่งชาติ พศ.2546 มาตรา 27 ระบุห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาหรือเผยแพร่ทางสื่อมวลชนหรือสารสนเทศประเภทใด ซึ่งเกี่ยวข้องกับข้อมูลเด็ก โดยเจตนาที่ทำเพื่อให้เกิดความเสียหาย มาเป็นเครื่องมือช่วยคุ้มครองเด็ก เชื่อว่าจะได้ผลอย่างมาก

นายปรเมศวร์ มินศิริ นายกสมาคมผู้ดูแลเว็บไทย กล่าวว่า ประเทศไทยแม้จะมีบางเว็บไซต์ที่เริ่มห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว แต่ยังมีบางเว็บที่ยังไม่ให้ความร่วมมือ เพราะมองว่าข้อมูลเหล่านี้สามารถขายได้ เด็กจึงถูกใช้เป็นเครื่องมือ และพบว่า ในการค้นหาข้อมูลทางเว็บไซต์ คำที่นิยมใช้มากที่สุดคือ “หาเพื่อน” “หาคู่” และตามด้วยจำนวนอายุที่ยังน้อยๆ ทำให้นำสู่การล่อลวงเด็กได้ง่าย ดังนั้น ผู้ประกอบการเว็บไซต์จึงควรให้ความร่วมมือด้วยการไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ของเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์

วันเดียวกัน นายนพดล กรรณิการ์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยว่า สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ ดำเนินการสำรวจ “พฤติกรรมและผลกระทบของการใช้อินเทอร์เน็ตจากกลุ่มเยาวชน:กรณีศึกษาประชาชน ทั่วไปอายุ 15-24 ปี ในเขตกรุงเทพมหานคร” ระหว่างวันที่ 15 – 17 ตุลาคม 2550 พบว่า เด็กและเยาวชนถึง 65.4% เคยใช้บริการออนไลน์ หรือเว็บไซต์ ที่ต้องสมัครสมาชิกและกรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ เพศ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ และ 33.6% ของจำนวนที่กรอกข้อมูลในเว็บไซด์เคยถูกบุคคลที่ไม่รู้จักติดต่อเข้าถึงตัว ผ่านทางโทรศัพท์และอีเมลล์ ซึ่งมีทั้งการพูดคุยธรรมดา ชักชวนออกไปพบกัน และใช้คำพูดลวนลามเรื่องเพศ

โดยเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น เมื่อมีบุคคลที่ไม่รู้จักติดต่อเข้าถึงตัว พบว่า ก่อให้เกิดความไม่สบายใจ 30.4% ถูกลวนลาม 21.4% และถูกข่มขืน หรือทำร้ายร่างกาย 8.9% ทั้งนี้ความเห็นของเยาวชนต่อการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวทางเว็บไซด์ 44.5% เห็นว่าไม่ควรเปิดเผยเลย และ 25.9% เห็นว่าทำได้ แต่ควรเปิดเผยเฉพาะข้อมูลบางส่วน ส่วนความเห็นเกี่ยวกับการสนทนาออนไลน์ พบว่า วัยรุ่นส่วนใหญ่ 83.8% เคยพูดคุยผ่านทางโปรแกรมสนทนา และ 80.4% เคยพูดคุยกับคนแปลกหน้า

นอกจากนี้ ในกลุ่มวัยรุ่นชาย 38.8% เคยนัดพบคนที่รู้จักทางอินเทอร์เน็ต ขณะที่กลุ่มวัยรุ่นหญิง 22.4% เคยนัดพบคนที่รู้จักทางอินเทอร์เน็ต และพบว่าในกลุ่มวัยรุ่นชาย 26.6% เคยมีเพศสัมพันธ์กับคนที่รู้จักทางอินเทอร์เน็ต กลุ่มวัยรุ่นหญิง 8.2% เคยมีเพศสัมพันธ์กับคนที่รู้จักทางอินเทอร์เน็ต และ 59.4% ของวัยรุ่นหญิง ไม่เต็มใจต่อการมีเพศสัมพันธ์กับคนที่รู้จักทางอินเทอร์เน็ต และวัยรุ่นชาย 20.8% กลุ่มวัยรุ่นเพศหญิง 12.2% เคยประกาศหาคู่ทางอินเทอร์เน็ต โดยเยาวชนส่วนใหญ่ 60.1% เห็นว่าแนวโน้มความรุนแรงของอาชญากรรมทางโลกออนไลน์ในอนาคตเพิ่มขึ้น

นายนพดล กล่าวอีกว่า เด็กส่วนใหญ่มีจุดประสงค์ของการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อค้นหาข้อมูลความรู้ 88.2% เล่นเกมส์ออนไลน์ 68.1% ดาวน์โหลดเพลง/ภาพยนตร์ 65.1% และ ใช้บริการจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ 57.9% ระยะเวลาการใช้อินเทอร์เน็ต น้อยกว่า 1 ชั่วโมงต่อวัน 13.6% ระหว่าง 1-2 ชั่วโมง 23.9% ระหว่าง 2 – 3 ชั่วโมง 20.3% ระหว่าง 3-4 ชั่วโมง 12.6% ระหว่าง 4-5 ชั่วโมง 12% และ 5 ชั่วโมงขึ้นไป จากการจัดอันดับเว็บไซด์ที่เด็กเข้าชมบ่อยที่สุด 5 ลำดับแรก คือ 1. กูเกิล 30.8% 2.สนุกดอทคอม 11.3% 3. ฮอทเมลล์ดอทคอม 9.9% 4. กระปุกดอทคอม 5.9% และ 5. ไฮไฟลต 3.9%

ส่วนความคิดเห็นเกี่ยวกับสื่อลามกอันตรายบนอินเทอร์เน็ต เด็กและเยาวชนจำนวน 53.2% เคยดูสื่อลามกทางอินเทอร์เน็ต ขณะที่ 46.8% ไม่เคยดูสื่อลามก นอกจากนี้ยังพบว่า 63.7% ของผู้ที่เคยดูสื่อลามกในอินเทอร์เน็ตเคยใช้บริการดาวน์โหลดภาพ/วีดีโอโป๊ ถึง 63.7% เล่นเกมผ่านเว็บโป๊ 15.7% และใช้บริการขอรับภาพ/วีดีโอผ่านอีเมล์ 13.9% โดยส่วนใหญ่เห็นว่าภาพโป๊/วีดีโอโป๊เปลือยทำให้เกิดปัญหาอาชญากรรมทางเพศ เช่น ข่มขืน อนาจาร 81.4% ทำให้วัยรุ่นหมกมุ่นเรื่องเซ็กส์ 77.4% และทำให้มีการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และเกิดการเลียนแบบ 76.5%

นายนพดล กล่าวอีกด้วยว่า จากการสำรวจพฤติกรรมการเล่นเกมส์ออนไลน์ พบว่า 64.2% เคยเล่นเกมส์ออนไลน์ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา และ 35.8% ไม่เคยเล่น สำหรับเนื้อหาสาระของเกมส์ออนไลน์ที่ชอบเล่น 10 ลำดับแรกคือ 1. เกมต่อสู้ เช่น ยิงปืน ฟัน เตะ ต่อย 60.9% 2. เกมแฟนตาซี 36.8% 3. เกมยิงตำรวจ 35.4% 4. เกมแข่งขันกีฬา เช่นฟุตบอล เทนนิส 28.8% 5. เกมเปลื้องผ้า 15.2% 6. เกมสะสมของ 13.1% 7. เกมลับสมอง 12.9% 8. เกมฝึกทักษะ เช่น ภาษา พิมพ์ดีด 10.3% 9.เกมดักฉุดหญิงสาว 4.5% และ10. อื่นๆ 2.5%
ที่มา: คมชัดลึก

One thought on “เกมส์ เซ็ก ส์ ออนไลน์”

  1. เกมส์ เซ็ก ส์ ออนไลน์
    หนูเสียตัวเพราะเกมส์ออนไลน์…
    เรื่องเสียตัวง่ายๆ ผู้ใหญ่ยังไม่รู้หนูเสียตัวเพราะเกมส์ออนไลน์…เรื่องเสียตัวง่ายๆ
    http://www.love.matethai.com/sex_and_love/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B9%8C%E0%B8%AD%E0%B8%AD/

Leave a Reply